ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายฉัตรชัย โลหะมาตย์ กำนันตำบลหนองกุง ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น ว่าได้รับแจ้งจากชาวบ้าน หมุดรางรถไฟ ช่วงระหว่างจุดข้ามทางรถไฟถนนสายน้ำพองกระนวน และจุดข้ามทางรถไฟเส้นทางไปบ้านนาเรียง บริเวณสะพานดำ ซึ่งเป็นสะพานข้ามลำห้วยสาธารณะ ถูกคนร้ายถอดหมุด และเหล็กประกับช่วงรอยต่อรางเหล็กที่ยึดติดกับพื้นสะพานหายไปจำนวน 5 จุด จึงได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบเพื่อเก็บข้อมูล เพื่อนำรายงานทางอำเภอ และเจ้าหน้าที่การรถไฟทราบ
โดยที่เกิดเหตุพบว่า เหล็กที่ใช้ยึดพื้นสะพานใช้รางรถไฟเป็นคานบน ความยาวประมาณ 25 เมตร จำนวน 2 เส้น ซึ่งแต่ละเส้นจะมีรอยต่อ ใช้เหล็กประกับแนบเหล็กเพื่อยึดด้วยน๊อตจำนวน 4 ตัว พร้อมกับยึดติดกับไม้หมอนรถไฟที่อยู่บนพื้น ถูกคนร้ายถอดเอาเหล็กประกับออกไปจำนวน 5 จุด แต่ละจุดจะใช้เหล็กประกับ 2 ชิ้น ๆ ละ 1 กิโลกรัม หายไป
นายฉัตรชัย เผยว่า ขณะที่กำลังตรวจสอบรายละเอียดอยู่นั้น ได้มีรถตรวจการของเจ้าหน้าที่การรถไฟ วิ่งผ่ามา จึงได้เรียกให้ตรวจสอบจุดที่ถูกขโมยหมุดรางรถไฟ ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่า หมุดกับเหล็กที่หายไปถูกขโมยลักไปหลายครั้งแล้ว ทุกครั้งจะนำอะไหล่มาทดแทน จนทุกวันนี้ไม่มีอะไหล่แล้ว เพราะถูกขโมยประจำ ซึ่งจุดที่ถูกขโมย ไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินรถไฟแต่อย่างใด
ตนจึงได้ถามต่อไปอีกว่า “แล้วถูกขโมยไปอย่างนี้ไม่แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบหรืออย่างไร” ทางเจ้าหน้าที่ตรวจการทางรถไฟแจ้งว่า “ได้แจ้งไปยังร้านรับซื้อของเก่าแล้ว” ตนจึงอธิบายความต่อไปว่า “การที่ตนเองเข้ามาตรวจดูว่าทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย เนื่องจากได้รับแจ้งจากประชาชน เกรงว่าจะส่งผลเสียต่อการเดินรถไฟ อาจทำให้รถตกรางได้” เจ้าหน้าที่คนเดิมกล่าวด้วยยน้ำเสียงดุดัน “เห็นครับ เห็นว่าถูกขโมยไปแต่มันไม่มีอะไหล่ นี่เป็นการแก้ไขดีที่สุดแล้ว ไปเอาจากจุดอื่นมาใส่สำรองแทน” ตนจึงบอกไปว่า “พูดเบา ๆ ก็ได้ ไม่ต้องเสียงดัง” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็พูดว่า “กลัวไม่ได้ยิน” “ถึงแม้เราเอามาใส่ไว้ อีกไม่กี่วันมันก็ถอดเอาอัก พวกขโมยมันมีเครื่องมือดีกว่าเจ้าหน้าที่รถไฟอีก”
เมื่อได้รับคำตอบเช่นนี้ ตนเองและชาวบ้านจึงได้พากันแยกย้ายกลับ พวกเราปรารถนาดี เกรงว่าทางการรถไฟจะเป็นอันตราย แต่กลับได้รับตำตอบที่ไม่ประทับใจ ถ้าเป็นอย่างนี้ใครก็สามารถมาลัก หรือขโมยหมุด หรือเหล็กรางรถไฟได้อย่างสะดวก จึงฝากหน่วยงานการรถไฟแห่งประเทศไทยให้ความสำคัญกับความหวังดีของชาวบ้านด้วย กำนันตำบลหนองกุงกล่าวในที่สุด